หวยใต้ดิน คือสลากที่เกิดขึ้นมา ภายในชุมชน โดยมีเจ้ามือที่ไม่ใช่รัฐบาล ซึ่งการออกรางวัลของหวยใต้ดินนั้น จะอ้างอิงหรือเปรียบเทียบรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากออมสิน โดยมีการจ่ายเงินรางวัลตามข้อตกลง ซึ่งเงินรางวัลอาจจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับอัตราของเจ้ามือ หรือไม่ได้รางวัลเลยหากเจ้ามือกินรวบ

ดังนั้นด้วยความไม่แน่นอนข้างต้น ที่อาจทำให้ผู้เสี่ยงโชค ไม่ได้รับรางวัล จึงเป็นสาเหตุหนึ่งให้ หวยใต้ดินเป็นสิ่งผิดกฏหมายประเภทหนึ่ง ที่ไม่ได้ขออนุญาตการเสี่ยงโชคจากเจ้าหน้าที่ แต่ยังมีความนิยมเล่นสูง เนื่องจากเป็นรูปแบบของการเดิมพันที่คนไทยคุ้นชิน หาซื้อง่าย สะดวก และไม่จำกัดวงเงินเดิมพัน อีกทั้งยังมีเงินรางวัลสูงกว่าหวยบนดิน

นอกจากนี้ ผู้เก็บรวบรวมสถิติพบว่า ยอดขายในแต่ละงวด ของหวยใต้ดินนั้น สูงกว่ายอดขายของสลากกินแบ่งรัฐบาล และมีมูลค่าในแต่ละงวดรวม สูงกว่า งบประมาณแผ่นดินในแต่ละปี ด้วยซ้ำ

วิธีการเล่นหวยใต้ดิน

ในอดีต ผู้เล่นจะทำการเขียนตัวเลขที่ตนเองต้องการเสี่ยงโชค จำนวน 2-3 หลัก ในกระดาษ ซึ่งเรียกกันว่า “โพย” ซึ่งในโพยใบดังกล่าว จะต้องระบุถึง หมายเลขที่ต้องการซื้อ จำนวนที่ต้องการ ในราคาเท่าไร ซึ่งจะจ่ายในราคาที่ผู้ซื้อสามารถควบคุมได้ (กล่าวคือ ยอดเงินที่ต้องชำระ เกิดจาก ผลคูณของ ราคา และจำนวน) จากนั้นจะมีคนที่คอยรวบรวมโพย หรือที่เรียกว่า “คนเดินโพย” รวบรวมโพยเหล่านั้นไปส่งที่เจ้ามือหวยใต้ดินในชุมชน หรือส่งต่อกันไปเป็นทอดในกลุ่มเจ้ามือ

ในปัจจุบัน ผู้ขาย หรือเจ้ามือ มีการขยายช่องทางต่างๆ ก็สามารถซื้อหวยใต้ดินได้ เช่น เว็บไซต์ออนไลน์ เป็นต้น

โอกาสของหวยใต้ดิน

เมื่อพิจารณาความเสี่ยงของหวยใต้ดิน เทียบกับ สลากกินแบ่งรัฐบาล พบว่าหวยใต้ดินมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า เนื่องจากว่า ถ้าผู้เล่นเลือกเล่นลอตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้เล่นจะต้องลุ้นผลรางวัลจากเลขทั้ง 6 ตัวของสลากให้ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งมีโอกาสถูกเพียงแค่ 1 ใน 1,000,000 ในขณะที่การเล่นหวยใต้ดินแบบ 3 ตัวตรง จะโอกาสถูกรางวัล 1 ใน 1,000 เท่านั้น

ดังนั้น เมื่อพิจารณาโดยรวม จะเห็นได้ว่า หวยใต้ดินมีโอกาสถูกรางวัลที่สูงกว่า รวมถึงใช้ทุนในการซื้อที่ต่ำกว่า จึงทำให้รูปแบบของการเล่นหวยในลักษณะนี้ เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย